ผมได้เคยเกริ่นไว้เมื่อหลายปีที่ผ่านมาว่า
ดวงในระบบสิบลัคนาสามารถใช้พยากรณ์เรื่องต่างๆได้อย่างกว้างขวางพิสดาร
ถึงวันนี้เห็นสมควรจะได้หยิบยกการพยากรณ์เหตุการณ์
โดยครั้งนี้จะใช้ฤกษ์ทำการมาเป็นตัวอย่างในการพยากรณ์เรื่องราว
ดวงฤกษ์ที่จะนำมาเป็นตัวอย่างครั้งนี้เป็นฤกษ์ขึ้นบ้านใหม่ของผู้ที่ผมเคารพนับถืออย่างสูงสุดท่านหนึ่ง
ซึ่งโดยปกติแล้วท่านมักจะเผยแพร่ความรู้เป็นวิทยาทานเสมอ
ดังนั้นการนำเสนอในครั้งนี้จึงมีความเชื่อว่าท่านจะเห็นด้วย เพราะน่าจะเป็นประโยชน์แก่ผู้ศึกษาโหราศาสตร์ในระบบสิบลัคนาสืบต่อไป
โดยปกติแล้วดวงฤกษ์ทั้งหลายที่โหราจารย์ได้คำนวณผูกวางเป็นดวงฤกษ์ขึ้นมา
ย่อมต้องการความเป็นสิริมงคลและผลในด้านต่างๆให้เหมาะสมกับกิจการที่ทำ ฤกษ์ขึ้นบ้านใหม่ก็เช่นเดียวกัน ย่อมต้องการความอยู่เย็นเป็นสุขของสมาชิกภายในบ้านเป็นสำคัญ
แต่ดวงฤกษ์ที่ผมนำมาเสนอในครั้งนี้มีความแปลกและน่าอัศจรรย์ซึ่งเชื่อว่าต้องเป็นความตั้งใจของผู้วางฤกษ์อย่างแน่นอน
ดวงฤกษ์ขึ้นบ้านใหม่มีรายละเอียดดังนี้ วันทำการเป็นวันศุกร์ที่ 3 ตุลาคม 2529 เวลาปฐมฤกษ์ 15.24 น. เวลาสุดฤกษ์ 15.33 น.
ดวงฤกษ์สิบลัคนา
ลัคนาฤกษ์สถิตราศีมังกร ปัญจมนวางค์ ๖ ทุติยตรียางค์ ๖ ภูมิปาโลฤกษ์
ดาวพฤหัส ๕ และดาวศุกร์ ๖ ได้ตำแหน่งอุจจ์ ราหูเป็นราชาโชค อาทิตย์ ๑ จันทร์ ๒ พฤหัส ๕
ได้องค์เกณฑ์จันทร์ครุสุริยาในราศีแม่ธาตุ
เสาร์ ๗ และมฤตยู ๐ ได้องค์เกณฑ์อัมพุในราศีเมษ พุธ ๔ ศุกร์ ๖
ได้คู่อสีติธาตุน้ำในราศีธาตุโยคหน้าลัคนา
พฤหัส ๕ เล็งจันทร์ ๒ ได้คู่อสีติธาตุดินในราศีแม่ธาตุ อังคาร ๓ ในราศีเมถุนเล็งเกตุ ๙
ในราศีธนูโดยได้องค์เกณฑ์อำพุกับพุธ ๔ ศุกร์ ๖ ในราศีมีน พฤหัส ๕ ในราศีกรกฎได้ราหู ๘ ในราศีตุลย์เป็นองค์เกณฑ์อัมพุ
จะเห็นได้ว่าดาวทุกดวงถึงลัคนาหมดโดยผ่านมุมจตุโกณและโยคเกณฑ์
ดาวที่เด่นและทรงอิทธิพลในดวงฤกษ์ที่สุดคือดาวพฤหัส ๕
ที่ได้ตำแหน่งอุจจ์
มีจุดที่น่าสนใจคือการได้ทำมุมสัมพันธ์ถึงมฤตยู ๐ และเกตุ ๙
จากเหตุผลที่กล่าวไปแล้วข้างต้น
ผลที่ปรากฏก็คือบ้านหลังนี้กลายเป็นแหล่งชุมนุมของโหราจารย์ทั้งที่มาศึกษาใหม่และโหราจารย์ระดับบรมครูหลายท่าน ผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนกันมาแลกเปลี่ยนความรู้อยู่ไม่ขาด
กลายเป็นสถานที่สำคัญที่สร้างโหรรุ่นใหม่สืบต่อเนื่องมาอย่างยาวนาน ดวงฤกษ์นี้จึงมีคุณค่าในการศึกษาเป็นอย่างยิ่ง
ดังที่ทราบกันแล้วว่าในนวางค์หนึ่งๆหรือในการให้ฤกษ์เรียกว่าบาทฤกษ์จะมีอาณาเขตถึง
3 องศา 20 ลิปดา
ดังนั้นในดวงฤกษ์นี้ผมขอกำหนดเอาเวลาปฐมฤกษ์ที่ 15.24 น. มาเป็นเกณฑ์เพื่อคำนวณหาองศาดาว ณ
เวลานั้นดังปรากฏข้างล่างนี้ โดยของดแสดงองศาดาวเพียงบางดวงตามคำแนะนำที่ได้รับมา
จะเห็นได้ว่ามีจุดที่น่าสังเกตอยู่ที่อังคาร
๓ พุธ ๔ ราหู ๘ โดยที่ดาวทั้งสามดวงนี้เสวยเพชฌฆาตฤกษ์ ซึ่งล้วนเป็นดาวบอกเหตุทั้งสิ้น
จากที่ตั้งชื่อเรื่องไว้ว่าดวงฤกษ์บอกเหตุ ในความเป็นจริงแล้วสามารถนำมาพิจารณาได้หลายเรื่อง
แต่ผมจะเลือกเรื่องที่เห็นเด่นชัดและเกี่ยวพันกับคนหมู่มากมาแสดงนั่นก็คือการมรณกรรม ก่อนอื่นขอย้อนกลับไปดูที่ตรีวัยก่อน ไล่เรียงจากวัยต้น เริ่มที่วัย ๒
ซึ่งเป็นวัยเดชทางทักษา
ก็ยังเป็นวัยที่เข้มแข็งดี
ถัดมาคือวัย ๑ เป็นช่วงวัยแห่งการสะสมทรัพย์สิน เงินทอง สุดท้ายของวัยต้นคือวัย ๓ อันเป็นวัยศรี ย่อมเป็นช่วงเวลาเจริญรุ่งเรืองพอควร พอก้าวเข้ามาสู่วัยกลาง วัยแรกเป็นวัย ๔ ดูกับวัยเทียบแล้วก็ตรงกับวัย
๔ วินาศ
ตรงนี้เป็นจุดสำคัญที่พึงสังเกต
เพราะในวัย ๔ นี้จะทำให้ดาวอังคาร ๓ กลายเป็นกาลกิณีวัย ที่สำคัญกว่านั้นดาวอังคาร ๓
เป็นฆาตของราศีมังกร ฉะนั้นตั้งแต่ 25
ปีถึง 33 ปี 4 เดือนตลอดวัย ๔ นี้จึงต้องจับตาดูเป็นพิเศษ
เหตุการณ์แรกที่จะนำเสนอเกิดขึ้นในวันศุกร์ที่ 14 มีนาคม 2557 เวลาประมาณ 12.00 น. ดาวจรในวันนั้นอยู่ในตำแหน่งดังรูป
ดาวจรราศีจักร
วันนั้นอังคาร
๓ เสาร์ ๗ ราหู ๘ จรในราศีตุลย์
ส่งกระแสถึงลัคนาในมุมจตุโกณ
เป็นกลุ่มดาวที่น่าสะพรึงกลัวมากเพราะล้วนเป็นดาวบาปเคราะห์ทั้งสิ้น โดยเฉพาะอังคาร ๓ ซึ่งจรอยู่ที่ 5 องศาส่งแรงเอื้อมถึงจันทร์
๒ เดิมในดวงฤกษ์ที่ 4 องศา
เท่ากับจรมาถึงสนิทนวางค์ เสาร์ ๗
จรที่ 26 องศาได้เกณฑ์อัมพุกับพฤหัส ๕ เดิมที่ราศีกรกฎ โดยพฤหัส ๕ เดิมมีองศา 28 ห่างกันไม่เกิน 3
องศา ส่วนเสาร์ ๗
จรเสวยเพชฌฆาตฤกษ์เท่ากับนำความมรณะมาสู่ดาวพฤหัสเดิม ราหู ๘
อันเป็นกาลกิณีของดวงฤกษ์ปีนี้จรมาเป็นกาลกิณีจรย่อมร้ายแรงเป็นพิเศษ ในเวลานั้นจรในราศีตุลย์ได้ 5 องศาส่งกระแสถึงจันทร์
๒ เดิมที่ 4 องศาสนิทนวางค์เช่นกัน
สรุปว่าในเวลานั้นจันทร์ ๒
เดิมในดวงฤกษ์ถูกกระทำย่ำยีจากดาวบาปเคราะห์ทั้งสามดวงจนสุดจะทานทน ผลก็คือแม่บ้านที่นอนป่วยอยู่ในบ้านได้จากไปอย่างสงบในเวลานั้น
ลองพิจารณาทางด้านทักษาดูบ้าง จรปีตกภูมิศุกร์ ๖ ทำให้ราหู ๘
กาลกิณีเดิมกลายเป็นกาลกิณีจรแรงขึ้นเป็น 2 เท่า
จรเดือนตกภูมิเสาร์ ๗
จรวันนับมาตกภูมิศุกร์ ๖
ก็ทำให้ไม่ต้องสงสัยเลยว่าราหู ๘ จรคราวนี้จะร้ายกาจเพียงไร
เหตุการณ์สุดท้ายที่จะหยิบยกมาเป็นตัวอย่างถือว่าเป็นเหตุการณ์สำคัญอย่างยิ่งครั้งหนึ่งในวงการโหราศาสตร์ไทย เพราะนอกจากความสูญเสียที่เกิดขึ้น
สิ่งที่ได้ตามมาคือบทพิสูจน์ทางโหราศาสตร์ที่ผู้จากไปได้มอบไว้เป็นมรดกให้โหรรุ่นหลังได้ศึกษา
เหตุเกิดเมื่อคืนวันอาทิตย์ตรงกับวันที่ 21
พฤษภาคม 2561 เวลาประมาณ 03:30 น. เนื่องจากเวลานั้นล่วงเลยเที่ยงคืนมาแล้วแต่ยังไม่รุ่งสว่างจึงนับวันทางทักษาเป็นวันอาทิตย์ มีดาวจรแสดงอยู่ดังรูป
ดาวจรราศีจักร
จะเห็นได้อย่างชัดเจนว่าดาวอังคาร
๓ ซึ่งเป็นดาวฆาตราศีอัมพุจรเข้าทับลัคนาดวงฤกษ์โดยจรได้ 12
องศาในขณะที่ลัคนาอาทิตย์ ๑ อยู่ที่ 13 องศา
เรียกได้ว่าทับกันเกือบสนิทองศาโดยต้องอย่าลืมว่าเวลาที่ใช้กำหนดในดวงฤกษ์นี้ใช้เวลาปฐมฤกษ์มาวางดวงดาวจึงอาจเคลื่อนจากเวลาจริงบ้างเล็กน้อย ส่วนราหู ๘
ซึ่งเป็นกาลกิณีเดิมของดวงฤกษ์จรมาเล็งลัคนาอาทิตย์ ๑ โดยจรอยู่ที่ 14 องศาเท่ากับเล็งลัคนาอย่างสนิทนวางค์
อาทิตย์
๑ อันเป็นดาวอายุเดิมของดวงฤกษ์ปีนี้ทางทักษาจรเป็นกาลกิณี
อีกทั้งอาทิตย์ยังเป็นดาวสำคัญอันหมายถึงประมุข
ผู้นำในที่นี้จะหมายถึงหัวหน้าครอบครัว
เมื่อมาจรเป็นกาลกิณีเสียแล้วย่อมต้องเพ่งเล็งเรื่องนี้เป็นพิเศษ ในขณะนั้นดาวอาทิตย์ ๑ จรอยู่ที่ราศีพฤษภได้ 5
องศาทำมุมตรีโกณถึงจันทร์เดิมที่อยู่ที่ 4 องศา
เป็นการจรถึงอย่างสนิทนวางค์
ลองมาดูดาวพฤหัส ๕
จรกันบ้างขณะนั้นจรอยู่ที่ราศีตุลย์ได้ 24
องศาแต่เสวยเพชฌฆาตฤกษ์ทั้งยังจรได้เกณฑ์อัมพุส่งกระแสถึงพฤหัสเดิมที่ราศีกรกฎโดยพฤหัสเดิมอยู่ที่
28 องศา จึงเป็นข้อสังเกตให้ท่านทั้งหลายช่วยพิจารณา ในราศีเมษดาวมฤตยูู ๐
จรทำมุมจตุโกณกับลัคนาฤกษ์
จึงเห็นได้ว่าในราศีทวารมีดาวจรตรึงเป็นมุมสี่เหลี่ยมโดยเกือบทั้งหมดเป็นดาวที่ให้โทษร้ายแรงทั้งสิ้น
ในด้านทักษา จรปีตกภูมิจันทร์ ๒
ทำให้ดาวอายุของดวงฤกษ์กลายเป็นกาลกิณีจร จุดสำคัญก็คือดาวอายุดวงนี้คืออาทิตย์ ๑
ซึ่งเป็นประธานของดาวทั้งปวง
เมื่อมาเป็นกาลกิณีจรเสียแล้วย่อมเสียหายเป็นพิเศษ จรเดือนตกภูมิอาทิตย์ ๑
ทำให้ดาวบริวารเดิมของดวงฤกษ์กลายเป็นกาลกิณีจร
นี่ก็เป็นอีกจุดสำคัญซึ่งน่าสังเกต
เพราะบริวารหมายถึงผู้อยู่อาศัยในบ้านหลังนี้
เมื่อมาเป็นกาลกิณีจรย่อมต้องเกิดความเดือดร้อนกันทั่วในเดือนนั้น ส่วนจรวันนับมาตกภูมิจันทร์ ๒
แทนที่จะเลยไปเป็นภูมิอังคาร ๓ เป็นเพราะเวลาที่เกิดเหตุยังไม่ล่วงเข้าสู่วันใหม่โดยถือเอาอาทิตย์ขึ้นเป็นเกณฑ์ ทำให้ดาวอาทิตย์ ๑ อายุเดิมของดวงฤกษ์กลายเป็นกาลกิณีจรวัน
ในเวลานั้นท่านผู้เป็นหัวหน้าครอบครัวได้ถึงแก่มรณกรรมที่บ้านหลังนี้
นำความโศกเศร้ามาสู่ครอบครัวและถือเป็นการสูญเสียครั้งสำคัญครั้งหนึ่งของวงการโหราศาสตร์ไทย
จากที่ผมนำเสนอมาทั้งหมดนี้เพียงต้องการแสดงให้เห็นว่าโหราศาสตร์ในระบบสิบลัคนาสามารถนำมาพิจารณาเรื่องต่างๆได้อย่างชัดเจน
โดยแม้ไม่มีวันเดือนปีเกิดของบุคคลก็สามารถพลิกแพลงหยิบเอาเหตุการณ์ที่เกี่ยวข้องมาเชื่อมโยงออกเป็นคำพยากรณ์ได้อย่างน่าอัศจรรย์
เนื่องด้วยบทความนี้เกี่ยวข้องกับบุคคลสำคัญที่ล่วงลับและบุคคลสำคัญหลายท่านที่ยังมีชีวิตอยู่ จึงขอสงวนนามท่านทั้งหลายไม่นำมาแสดงในที่นี้
3
พฤศจิกายน 2561