ระยะที่ผมเขียนบทความอยู่นี้เป็นช่วงเดือนกุมภาพันธ์
2557 มีดาวบาปเคราะห์ชุมนุมกันอยู่ในราศีตุลย์
ได้แก่ อังคาร ๓ เสาร์ ๗ ราหู ๘
ลำพังเพียงแค่ดาวกลุ่มนี้จรมาสัมพันธ์ลัคนาหรือตนุเศษก็ทำให้เจ้าชะตาเดือดร้อนมากพออยู่แล้ว ยิ่งกลายมาเป็นดาวกาลีจรก็สุดที่จะบรรยาย ขึ้นอยู่ว่าดวงชะตาใครจะมีภูมิคุ้มกันสูงแค่ไหน
และก็เช่นกันช่วงนี้ก็มีผู้ได้รับโทษจากดาวกาลีจรแวะเวียนมาให้ผมชี้แนะหลายท่าน แต่ที่หลายคนไม่รู้ก็คือผมก็โดนพิษสงราหู ๘
เป็นกาลีจรสัมพันธ์ลัคน์เล่นเอาแทบบ้านแตก
ก็อย่างที่รู้ๆกัน ยามไหนที่ราหู ๘
ให้โทษก็จะเป็นไปแบบโครมคราม
ไม่ทันได้ตั้งตัว
ขนาดระวังตัวแจก็ยังไม่รอด
ดาวอังคาร ๓
ให้โทษทางด้านอุบัติเหตุ โจรภัย โดนทำร้าย
ดาวเสาร์ ๗ ให้โทษในลักษณะเรื่องยืดเยื้อไม่จบสิ้นง่ายๆ ถ้าป่วยไข้ก็จะเป็นโรคเรื้อรัง ส่วนราหู ๘ จะเป็นไปในลักษณะฉับพลัน
บางทีไม่รู้เนื้อรู้ตัวก็เกิดเรื่องเสียแล้วและกลายเป็นเรื่องใหญ่เสียด้วย
ความจริงตำราหลายๆสำนักก็เขียนไว้ตรงกัน แต่ที่อยากนำมาทบทวนในช่วงนี้ก็เพราะเห็นข่าวคราวบ้านเมืองแล้วสะท้อนใจ ในช่วงเวลานี้มีแต่ความแตกแยกร้าวฉานจนผมสงสัยว่าจะใช้เวลานานเท่าไรที่จะสมานแผลนี้ได้ มองจากดวงดาวที่สัมพันธ์กับดวงเมืองก็เห็นดาวเสาร์
๗ เป็นกาลีจรเล็งดวงเมืองราศีเมษอยู่
ก็เพราะอย่างนั้นปัญหาที่เกิดขึ้นคงไม่จบลงง่ายๆ ต้องขอออกตัวก่อนว่าผมไม่ใช่โหรการเมือง แต่เมื่อดวงดาวมันเป็นไปอย่างนี้ก็คงพยากรณ์ได้ไม่ยาก และถ้าถามว่าเมื่อไรความขัดแย้งทางการเมืองจะยุติ ผมคงไม่อาจตอบคำถามนี้ได้ แต่มีความเชื่อโดยอิงหลักธรรมที่ว่า ทุกสิ่งมีเกิดขึ้น ตั้งอยู่
และดับไป
แม้แต่บ้านเมืองที่วางฤกษ์ก่อสร้างลงหลักปักฐานมาเป็นอย่างดียังต้องมาประสบเคราะห์กรรมเช่นนี้ นับประสาอะไรกับดวงชะตาของแต่ละบุคคลย่อมต้องพบเจอกับสุขทุกข์ปนเปกันไปตามกรรมของแต่ละคน เวลาที่มีอยู่ก็เร่งทำความดีเสีย หมดเวลาแล้วยากที่ใครจะช่วยได้
26
ก.พ. 2557