3 พฤศจิกายน 2561

ดวงฤกษ์บอกเหตุ


      ผมได้เคยเกริ่นไว้เมื่อหลายปีที่ผ่านมาว่า   ดวงในระบบสิบลัคนาสามารถใช้พยากรณ์เรื่องต่างๆได้อย่างกว้างขวางพิสดาร   ถึงวันนี้เห็นสมควรจะได้หยิบยกการพยากรณ์เหตุการณ์   โดยครั้งนี้จะใช้ฤกษ์ทำการมาเป็นตัวอย่างในการพยากรณ์เรื่องราว
     ดวงฤกษ์ที่จะนำมาเป็นตัวอย่างครั้งนี้เป็นฤกษ์ขึ้นบ้านใหม่ของผู้ที่ผมเคารพนับถืออย่างสูงสุดท่านหนึ่ง   ซึ่งโดยปกติแล้วท่านมักจะเผยแพร่ความรู้เป็นวิทยาทานเสมอ   ดังนั้นการนำเสนอในครั้งนี้จึงมีความเชื่อว่าท่านจะเห็นด้วย   เพราะน่าจะเป็นประโยชน์แก่ผู้ศึกษาโหราศาสตร์ในระบบสิบลัคนาสืบต่อไป     
     โดยปกติแล้วดวงฤกษ์ทั้งหลายที่โหราจารย์ได้คำนวณผูกวางเป็นดวงฤกษ์ขึ้นมา   ย่อมต้องการความเป็นสิริมงคลและผลในด้านต่างๆให้เหมาะสมกับกิจการที่ทำ   ฤกษ์ขึ้นบ้านใหม่ก็เช่นเดียวกัน   ย่อมต้องการความอยู่เย็นเป็นสุขของสมาชิกภายในบ้านเป็นสำคัญ   แต่ดวงฤกษ์ที่ผมนำมาเสนอในครั้งนี้มีความแปลกและน่าอัศจรรย์ซึ่งเชื่อว่าต้องเป็นความตั้งใจของผู้วางฤกษ์อย่างแน่นอน
     ดวงฤกษ์ขึ้นบ้านใหม่มีรายละเอียดดังนี้   วันทำการเป็นวันศุกร์ที่ 3 ตุลาคม 2529   เวลาปฐมฤกษ์ 15.24 น.   เวลาสุดฤกษ์ 15.33 น.
ดวงฤกษ์สิบลัคนา
     ลัคนาฤกษ์สถิตราศีมังกร   ปัญจมนวางค์ ๖  ทุติยตรียางค์ ๖  ภูมิปาโลฤกษ์   ดาวพฤหัส ๕ และดาวศุกร์ ๖ ได้ตำแหน่งอุจจ์   ราหูเป็นราชาโชค   อาทิตย์ ๑ จันทร์ ๒ พฤหัส ๕ ได้องค์เกณฑ์จันทร์ครุสุริยาในราศีแม่ธาตุ    เสาร์ ๗ และมฤตยู ๐ ได้องค์เกณฑ์อัมพุในราศีเมษ   พุธ ๔ ศุกร์ ๖ ได้คู่อสีติธาตุน้ำในราศีธาตุโยคหน้าลัคนา   พฤหัส ๕ เล็งจันทร์ ๒ ได้คู่อสีติธาตุดินในราศีแม่ธาตุ   อังคาร ๓ ในราศีเมถุนเล็งเกตุ ๙ ในราศีธนูโดยได้องค์เกณฑ์อำพุกับพุธ ๔ ศุกร์ ๖ ในราศีมีน   พฤหัส ๕ ในราศีกรกฎได้ราหู ๘ ในราศีตุลย์เป็นองค์เกณฑ์อัมพุ   จะเห็นได้ว่าดาวทุกดวงถึงลัคนาหมดโดยผ่านมุมจตุโกณและโยคเกณฑ์

     ดาวที่เด่นและทรงอิทธิพลในดวงฤกษ์ที่สุดคือดาวพฤหัส ๕ ที่ได้ตำแหน่งอุจจ์   มีจุดที่น่าสนใจคือการได้ทำมุมสัมพันธ์ถึงมฤตยู ๐ และเกตุ ๙ จากเหตุผลที่กล่าวไปแล้วข้างต้น   ผลที่ปรากฏก็คือบ้านหลังนี้กลายเป็นแหล่งชุมนุมของโหราจารย์ทั้งที่มาศึกษาใหม่และโหราจารย์ระดับบรมครูหลายท่าน   ผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนกันมาแลกเปลี่ยนความรู้อยู่ไม่ขาด   กลายเป็นสถานที่สำคัญที่สร้างโหรรุ่นใหม่สืบต่อเนื่องมาอย่างยาวนาน   ดวงฤกษ์นี้จึงมีคุณค่าในการศึกษาเป็นอย่างยิ่ง
     ดังที่ทราบกันแล้วว่าในนวางค์หนึ่งๆหรือในการให้ฤกษ์เรียกว่าบาทฤกษ์จะมีอาณาเขตถึง 3 องศา 20 ลิปดา   ดังนั้นในดวงฤกษ์นี้ผมขอกำหนดเอาเวลาปฐมฤกษ์ที่ 15.24 น.   มาเป็นเกณฑ์เพื่อคำนวณหาองศาดาว ณ เวลานั้นดังปรากฏข้างล่างนี้   โดยของดแสดงองศาดาวเพียงบางดวงตามคำแนะนำที่ได้รับมา
     จะเห็นได้ว่ามีจุดที่น่าสังเกตอยู่ที่อังคาร ๓ พุธ ๔ ราหู ๘ โดยที่ดาวทั้งสามดวงนี้เสวยเพชฌฆาตฤกษ์   ซึ่งล้วนเป็นดาวบอกเหตุทั้งสิ้น
     จากที่ตั้งชื่อเรื่องไว้ว่าดวงฤกษ์บอกเหตุ   ในความเป็นจริงแล้วสามารถนำมาพิจารณาได้หลายเรื่อง   แต่ผมจะเลือกเรื่องที่เห็นเด่นชัดและเกี่ยวพันกับคนหมู่มากมาแสดงนั่นก็คือการมรณกรรม   ก่อนอื่นขอย้อนกลับไปดูที่ตรีวัยก่อน   ไล่เรียงจากวัยต้น เริ่มที่วัย ๒ ซึ่งเป็นวัยเดชทางทักษา   ก็ยังเป็นวัยที่เข้มแข็งดี   ถัดมาคือวัย ๑ เป็นช่วงวัยแห่งการสะสมทรัพย์สิน เงินทอง   สุดท้ายของวัยต้นคือวัย ๓ อันเป็นวัยศรี   ย่อมเป็นช่วงเวลาเจริญรุ่งเรืองพอควร   พอก้าวเข้ามาสู่วัยกลาง   วัยแรกเป็นวัย ๔ ดูกับวัยเทียบแล้วก็ตรงกับวัย ๔ วินาศ   ตรงนี้เป็นจุดสำคัญที่พึงสังเกต   เพราะในวัย ๔ นี้จะทำให้ดาวอังคาร ๓ กลายเป็นกาลกิณีวัย   ที่สำคัญกว่านั้นดาวอังคาร ๓ เป็นฆาตของราศีมังกร   ฉะนั้นตั้งแต่ 25 ปีถึง 33 ปี 4 เดือนตลอดวัย ๔ นี้จึงต้องจับตาดูเป็นพิเศษ
     เหตุการณ์แรกที่จะนำเสนอเกิดขึ้นในวันศุกร์ที่ 14 มีนาคม 2557  เวลาประมาณ 12.00 น.   ดาวจรในวันนั้นอยู่ในตำแหน่งดังรูป
ดาวจรราศีจักร
     วันนั้นอังคาร ๓ เสาร์ ๗ ราหู ๘ จรในราศีตุลย์   ส่งกระแสถึงลัคนาในมุมจตุโกณ   เป็นกลุ่มดาวที่น่าสะพรึงกลัวมากเพราะล้วนเป็นดาวบาปเคราะห์ทั้งสิ้น   โดยเฉพาะอังคาร ๓ ซึ่งจรอยู่ที่ 5 องศาส่งแรงเอื้อมถึงจันทร์ ๒ เดิมในดวงฤกษ์ที่ 4 องศา   เท่ากับจรมาถึงสนิทนวางค์   เสาร์ ๗ จรที่ 26 องศาได้เกณฑ์อัมพุกับพฤหัส ๕ เดิมที่ราศีกรกฎ  โดยพฤหัส ๕ เดิมมีองศา 28 ห่างกันไม่เกิน 3 องศา   ส่วนเสาร์ ๗ จรเสวยเพชฌฆาตฤกษ์เท่ากับนำความมรณะมาสู่ดาวพฤหัสเดิม   ราหู ๘ อันเป็นกาลกิณีของดวงฤกษ์ปีนี้จรมาเป็นกาลกิณีจรย่อมร้ายแรงเป็นพิเศษ   ในเวลานั้นจรในราศีตุลย์ได้ 5 องศาส่งกระแสถึงจันทร์ ๒ เดิมที่ 4 องศาสนิทนวางค์เช่นกัน   สรุปว่าในเวลานั้นจันทร์ ๒ เดิมในดวงฤกษ์ถูกกระทำย่ำยีจากดาวบาปเคราะห์ทั้งสามดวงจนสุดจะทานทน   ผลก็คือแม่บ้านที่นอนป่วยอยู่ในบ้านได้จากไปอย่างสงบในเวลานั้น
     ลองพิจารณาทางด้านทักษาดูบ้าง   จรปีตกภูมิศุกร์ ๖ ทำให้ราหู ๘ กาลกิณีเดิมกลายเป็นกาลกิณีจรแรงขึ้นเป็น 2 เท่า   จรเดือนตกภูมิเสาร์ ๗   จรวันนับมาตกภูมิศุกร์ ๖   ก็ทำให้ไม่ต้องสงสัยเลยว่าราหู ๘ จรคราวนี้จะร้ายกาจเพียงไร
     เหตุการณ์สุดท้ายที่จะหยิบยกมาเป็นตัวอย่างถือว่าเป็นเหตุการณ์สำคัญอย่างยิ่งครั้งหนึ่งในวงการโหราศาสตร์ไทย   เพราะนอกจากความสูญเสียที่เกิดขึ้น   สิ่งที่ได้ตามมาคือบทพิสูจน์ทางโหราศาสตร์ที่ผู้จากไปได้มอบไว้เป็นมรดกให้โหรรุ่นหลังได้ศึกษา
     เหตุเกิดเมื่อคืนวันอาทิตย์ตรงกับวันที่ 21 พฤษภาคม 2561    เวลาประมาณ 03:30 น.   เนื่องจากเวลานั้นล่วงเลยเที่ยงคืนมาแล้วแต่ยังไม่รุ่งสว่างจึงนับวันทางทักษาเป็นวันอาทิตย์   มีดาวจรแสดงอยู่ดังรูป
ดาวจรราศีจักร
     จะเห็นได้อย่างชัดเจนว่าดาวอังคาร ๓ ซึ่งเป็นดาวฆาตราศีอัมพุจรเข้าทับลัคนาดวงฤกษ์โดยจรได้ 12 องศาในขณะที่ลัคนาอาทิตย์ ๑ อยู่ที่ 13 องศา   เรียกได้ว่าทับกันเกือบสนิทองศาโดยต้องอย่าลืมว่าเวลาที่ใช้กำหนดในดวงฤกษ์นี้ใช้เวลาปฐมฤกษ์มาวางดวงดาวจึงอาจเคลื่อนจากเวลาจริงบ้างเล็กน้อย   ส่วนราหู ๘ ซึ่งเป็นกาลกิณีเดิมของดวงฤกษ์จรมาเล็งลัคนาอาทิตย์ ๑ โดยจรอยู่ที่ 14 องศาเท่ากับเล็งลัคนาอย่างสนิทนวางค์
อาทิตย์ ๑ อันเป็นดาวอายุเดิมของดวงฤกษ์ปีนี้ทางทักษาจรเป็นกาลกิณี   อีกทั้งอาทิตย์ยังเป็นดาวสำคัญอันหมายถึงประมุข ผู้นำในที่นี้จะหมายถึงหัวหน้าครอบครัว   เมื่อมาจรเป็นกาลกิณีเสียแล้วย่อมต้องเพ่งเล็งเรื่องนี้เป็นพิเศษ   ในขณะนั้นดาวอาทิตย์ ๑ จรอยู่ที่ราศีพฤษภได้ 5 องศาทำมุมตรีโกณถึงจันทร์เดิมที่อยู่ที่ 4 องศา   เป็นการจรถึงอย่างสนิทนวางค์
     ลองมาดูดาวพฤหัส ๕ จรกันบ้างขณะนั้นจรอยู่ที่ราศีตุลย์ได้ 24 องศาแต่เสวยเพชฌฆาตฤกษ์ทั้งยังจรได้เกณฑ์อัมพุส่งกระแสถึงพฤหัสเดิมที่ราศีกรกฎโดยพฤหัสเดิมอยู่ที่ 28 องศา   จึงเป็นข้อสังเกตให้ท่านทั้งหลายช่วยพิจารณา   ในราศีเมษดาวมฤตยูู ๐ จรทำมุมจตุโกณกับลัคนาฤกษ์   จึงเห็นได้ว่าในราศีทวารมีดาวจรตรึงเป็นมุมสี่เหลี่ยมโดยเกือบทั้งหมดเป็นดาวที่ให้โทษร้ายแรงทั้งสิ้น
     ในด้านทักษา   จรปีตกภูมิจันทร์ ๒ ทำให้ดาวอายุของดวงฤกษ์กลายเป็นกาลกิณีจร   จุดสำคัญก็คือดาวอายุดวงนี้คืออาทิตย์ ๑ ซึ่งเป็นประธานของดาวทั้งปวง   เมื่อมาเป็นกาลกิณีจรเสียแล้วย่อมเสียหายเป็นพิเศษ   จรเดือนตกภูมิอาทิตย์ ๑ ทำให้ดาวบริวารเดิมของดวงฤกษ์กลายเป็นกาลกิณีจร   นี่ก็เป็นอีกจุดสำคัญซึ่งน่าสังเกต   เพราะบริวารหมายถึงผู้อยู่อาศัยในบ้านหลังนี้   เมื่อมาเป็นกาลกิณีจรย่อมต้องเกิดความเดือดร้อนกันทั่วในเดือนนั้น   ส่วนจรวันนับมาตกภูมิจันทร์ ๒ แทนที่จะเลยไปเป็นภูมิอังคาร ๓ เป็นเพราะเวลาที่เกิดเหตุยังไม่ล่วงเข้าสู่วันใหม่โดยถือเอาอาทิตย์ขึ้นเป็นเกณฑ์   ทำให้ดาวอาทิตย์ ๑ อายุเดิมของดวงฤกษ์กลายเป็นกาลกิณีจรวัน   ในเวลานั้นท่านผู้เป็นหัวหน้าครอบครัวได้ถึงแก่มรณกรรมที่บ้านหลังนี้   นำความโศกเศร้ามาสู่ครอบครัวและถือเป็นการสูญเสียครั้งสำคัญครั้งหนึ่งของวงการโหราศาสตร์ไทย
     จากที่ผมนำเสนอมาทั้งหมดนี้เพียงต้องการแสดงให้เห็นว่าโหราศาสตร์ในระบบสิบลัคนาสามารถนำมาพิจารณาเรื่องต่างๆได้อย่างชัดเจน   โดยแม้ไม่มีวันเดือนปีเกิดของบุคคลก็สามารถพลิกแพลงหยิบเอาเหตุการณ์ที่เกี่ยวข้องมาเชื่อมโยงออกเป็นคำพยากรณ์ได้อย่างน่าอัศจรรย์
     เนื่องด้วยบทความนี้เกี่ยวข้องกับบุคคลสำคัญที่ล่วงลับและบุคคลสำคัญหลายท่านที่ยังมีชีวิตอยู่   จึงขอสงวนนามท่านทั้งหลายไม่นำมาแสดงในที่นี้

3 พฤศจิกายน 2561    







7 มิถุนายน 2561

รักเป็นพิษ


   เจ้าชะตาเป็นหญิง  เกิดวันอังคารที่ 8 เมษายน 2540  หาเวลาเกิดได้ประมาณ 11.40 น. จ.สุรินทร์

   ดวงชะตาในระบบสิบลัคนามีดวงดาวปรากฏดังภาพ  ส่วนดวงดาววงนอกเป็นดาวจรในวันเสียชีวิต  ตรงกับวันจันทร์ที่ 4 มิถุนายน 2561  เวลาจากกล้องวงจรปิดแสดงเวลา 10.55 น. ที่ จ.นครปฐม

   ก่อนอื่นผมต้องขอแสดงความเสียใจต่อครอบครัวของน้องอุ้ม  กับการจากไปอย่างกระทันหัน  เป็นเรื่องยากเกินกว่าจะทำใจยอมรับได้

   จากข่าวที่ปรากฏตามสื่อแขนงต่างๆ  น้องอุ้มถูกชายซึ่งเป็นแฟนเก่าดักพบเพื่อเจรจาขอคืนดี  แต่ฝ่ายหญิงตอบปฏิเสธ  ฝ่ายชายจึงใช้ปืนขนาด .38 ยิงน้องอุ้มจนเสียชีวิต  แล้วจึงยิงตัวเองหวังตายตามและเสียชีวิตในเวลาต่อมา  ทั้งนี้ในวันเดียวกันนั้นก็ยังมีคู่รักอีกคู่ตกลงปัญหากันไม่ได้  ฝ่ายชายจึงใช้ปืนยิงฝ่ายหญิงจนกระทั่งเสียชีวิตในเวลาที่ไม่ห่างกันนัก

   ทั้งสองเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเกิดในวันเดียวกัน  มูลเหตุหลักเหมือนกันคือเรื่องความรัก  และลงเอยแบบเดียวกันคือการใช้ความรุนแรง  เหล่านี้เป็นเรื่องน่าศึกษาในแง่มุมทางโหราศาสตร์ว่าจะมีอะไรเป็นตัวบอกเหตุได้บ้าง  สำหรับบทความนี้จะยกกรณีของน้องอุ้มมาศึกษา
 
   เริ่มจากดวงชะตาของน้องอุ้ม  ข้อมูลมีเพียงวันเดือนปีเกิด  ขาดข้อมูลสำคัญคือเวลาเกิด  ดังนั้นจำเป็นต้องใช้ประวัติชีวิตของเธอมาช่วยหา

   ขอตั้งต้นที่ดาวจรวันเกิดเหตุมีดาวทำมุมจตุโกณในราศีทวารอยู่หลายดวง  แต่ดาวดวงที่จะทำให้เกิดเหตุร้ายรุนแรงได้ย่อมต้องเป็นดาวบาปเคราะห์  พิจารณาเห็นดาวสำคัญคืออังคาร ๓ ดวงนี้เกี่ยวข้องกับอาวุธปืนโดยตรง  อีกดวงคือราหู ๘ แม้จริงๆจะไม่ใช่ดาวแต่ให้ผลรุนแรงเฉียบพลัน  ส่วนมฤตยู ๐ เกี่ยวเนื่องกับการสูญเสีย  ความตาย

   เมื่อพิจารณาได้อย่างนี้จึงลองวางลัคนาให้สัมพันธ์กับดาวบาปเคราะห์ดังกล่าว  เลือกใช้ราศีกรกฎเป็นที่ตั้งลัคนา  จากเนื้อข่าวบอกว่าน้องอุ้มได้เริ่มคบกับแฟนเก่าคนนี้เมื่อ 4 - 5 ปีก่อน  ลองคำนวณย้อนกลับก็ตกราวปี 2556  ขณะนั้นดาวเสาร์ ๗ ปัตตะนิจรร่วมราหู ๘ ในราศีตุลย์ได้องค์เกณฑ์อำพุจึงส่งกระแสถึงลัคน์ราศีกรกฎ  และยังตรีโกณถึงเสาร์ ๗ และราหู ๘ เดิมที่กุมกันในราศีมิถุน  ดาวคู่นี้จรถึงกันทายว่าจะได้พบมิตรใจร้าย  ส่วนพฤหัส ๕ จรโยคหลังลัคนาให้คุณอยู่

  จากนั้นนำหน้าตา  รูปร่างมาวางหานวางค์กำเนิดจนปรากฏเป็นดวงชะตาอย่างที่นำเสนอ

   พิจารณาจากดวงเดิม  ลัคนาอาทิตย์ ๑ และเป็นตนุเศษสถิตราศีกรกฎ  มีจันทร์ ๒ พุธ ๔ ศุกร์ ๖ เกตุ ๙ กุมลัคน์  อังคาร ๓ อยู่ตุลย์ได้องค์เกณฑ์อำพุ  เสาร์ ๗ กุมราหู ๘ วินาศน์ลัคน์  พฤหัส ๕ กุมมฤตยู ๐ อยู่ในเรือนกัมมะ

   เนื่องจากลัคนาและดาวศุภเคราะห์สำคัญหลายดวงไปเกาะกุมกันในราศีกาลีเดิม  ทำให้ลดทอนคุณภาพลงไปบ้าง  แต่อิทธิพลดาวพฤหัส ๕ ศรีเดิมที่ลอยอยู่ในเรือนกัมมะทำให้เธอมีผลการเรียนที่ดี  และอิทธิพลของราศีธาตุน้ำที่มีดาวพุธ ๔ กุมศุกร์ ๖ ได้คู่อสีติธาตุในราศีชั้นหนึ่งเป็นเหตุผลที่จูงใจให้เลือกเรียนด้านพานิชย์นาวี

   ด้วยเหตุผลที่ฐานะทางบ้านไม่สู้ดีนัก  งานขายสินค้าออนไลน์จึงเป็นอาชีพเสริมที่น้องอุ้มเลือกทำ  จึงพอมีรายได้มาจุนเจือแบ่งเบาภาระทางบ้านบ้าง

   พิจารณาในเรื่องคู่  ดาวเสาร์ ๗ ปัตตะนิไปอยู่เรือนวินาศน์  คู่ครองจึงอยู่ไกลหรือไม่เปิดเผย  เสาร์ ๗ กุมราหู ๘ เจ้าเรือนมรณะ  จุดนี้เป็นเรื่องที่ต้องระวังแถมยังอยู่ในราศีมิถุนซึ่งเจ้าเรือนคือดาวพุธ ๔ อันเป็นดาวอายุเดิมของเจ้าชะตา

   ลองพิจารณาให้ลึกอีกชั้น  ดาวปัตตะนิหรือดาวคู่คือเสาร์ ๗  ดังนั้นดาวอายุนับแบบทักษาของดาวคู่คือดาวพฤหัส ๕  ดาวดวงนี้กุมอยู่กับดาวมฤตยู ๐ ในราศีเมษ  บ่งบอกว่าอายุของคู่จะไม่ยืน

   เมื่อนำความหมายของดาว  เรือนชะตา  ทักษา  มาอ่านรวมกันก็จะได้ความหมายว่า  คู่ครองจะอยู่ห่างไกล  และคู่นั่นแหละจะนำพาความสูญเสียที่ยิ่งใหญ่(มรณะ+อายุ)มาให้  และตัวเขาเองก็อายุไม่ยืน(อายุของปัตตะนิกุมมฤตยู)

   ในช่วงก่อนเกิดเหตุ  ดาวเสาร์ ๗ ปัตตะนิเดิมจรเข้าเรือนอริ  น้องอุ้มประกาศเลิกรากับคนรัก

   จนถึงวันเกิดเหตุสลด  ทักษาจรปีตกภูมิพฤหัส ๕  เสาร์ ๗ ดาวปัตตะนิกลายเป็นกาลีจร  จรเดือนตกภูมิศุกร์ ๖  ราหู ๘ เจ้าเรือนมรณะกลายเป็นกาลีจรเดือนทับลัคนา  อังคาร ๓ ดาวฆาตราศีอำพุเล็งลัคนาสนิทองศากับดาวพุธ ๔ อายุเดิม  โศกนาฏกรรมจึงบังเกิดขึ้นโดยมีอังคาร ๓ อันหมายถึงอาวุธปืนเป็นเครื่องมือ

   หากหมุนดาวจรในวันและเวลาเกิดเหตุวางดวงจรในระบบสิบลัคนา  ก็จะได้ดาวมฤตยู ๐ มาทับลัคนาราศีกรกฎอีกดวง

   ผมนำเสนอบทความนี้เพื่อเป็นแนวทางในการพิจารณาหาเวลาเกิด  หากจะเกิดประโยชน์อยู่บ้างก็ขออุทิศความดีให้แก่เจ้าของดวงชะตา  แต่หากมีข้อผิดพลาดผมขอน้อมรับไว้แต่เพียงผู้เดียว
7 มิ.ย. 2561

 


 

1 มิถุนายน 2561

ดวงหนุมาน

   ผมได้ยินคำพูดถึงดวงประเภทนี้มานานมากแล้ว แต่ขณะนั้นยังไม่ทราบคุณของดวงชะตาแบบนี้เลย อาจเป็นเพราะสถิติดวงชะตาในมือของผมยังมีน้อย

   แต่ก่อนจะพูดอะไรไปมากกว่านี้ มาทำความเข้าใจลักษณะของดวงหนุมานกันก่อน

   เท่าที่ตำราทั้งหลายกล่าวไว้ ดวงสามเหลี่ยมหรือที่นิยมเรียกว่าดวงหนุมาน(เป็นดวงประเทียบ)มีลักษณะดาวเรียงรายติดต่อกันสามราศีโดยมีลัคนาอยู่ตรงกลาง คือจากลัคนามีดาวอยู่ในราศีถัดไปและมีดาวอยู่ในราศีหลังลัคนา โดยกลุ่มดาวที่รวมตัวกันนี้ต้องมีดาวร่วมกลุ่มกัน 5 ดวงขึ้นไป ข้อความเหล่านี้ผมจดจำมา ถ้าคลาดเคลื่อนไปบ้างก็ขออภัย

   แต่จุดสำคัญคือมีดาวเรียงรายติดต่อกันสามราศีโดยมีลัคนาอยู่ตรงกลาง
   ผมจะลองสร้างดวงตัวอย่างในระบบสิบลัคนาเพื่อจะได้เห็นภาพชัดเจนยิ่งขึ้น


   จากดวงตัวอย่างคงพอจะเข้าใจสิ่งที่ได้บรรยายมา

   สำหรับคุณลักษณะของดวงประเภทนี้ท่านกล่าวว่าจะมีความมั่นคง แม้จะเผชิญอุปสรรคหนักหนาแค่ไหนก็ไม่ล้มลงไปง่ายๆ ทำงานประเภทอาสาแล้วจะได้ดี

   สิ่งนี้ทำให้ผมนำมาทบทวนดวงชะตาที่เคยดูผ่านมา ก็มีส่วนถูกอยู่มาก นับเป็นอีกเกณฑ์ชะตาหนึ่งที่น่าสนใจ แต่ทั้งนี้ผมยังคงต้องเก็บสถิติส่วนตัวต่อไป

   ยังมีเกณฑ์ทางโหราศาสตร์อีกมากที่ช่วยทำให้ดวงชะตาที่มีดาวเสียกลับฟื้นคืนตัว
1 มิ.ย.2561
 

28 พฤษภาคม 2561

บทเรียนที่เป็นอมตะ

ผมอ่านทบทวนบทความชื่อ

โหราสาด (ฉบับเรียนรู้ โดยไม่ต้องถาม) อ.สอ้าน นาคเพชรพูล(สีดิน) 

ความยาว 35 ตอน ที่ท่านอาจารย์เขียนไว้เป็นมรดกชิ้นสำคัญชิ้นหนึ่ง
หากผู้สนใจในศาสตร์สิบลัคนาที่อยากเรียนรู้อย่างไม่ยากนัก เชิญติดตามไปอ่านได้ที่ลิงค์ข้างล่างนี้ครับ

โหราสาด (ฉบับเรียนรู้ โดยไม่ต้องถาม) อ.สอ้าน(สีดิน)